Insatiable ความไม่รู้จักพอที่นำไปสู่หายนะ

อีกหนึ่งซีรี่ย์ชื่อดังที่กลายเป็นกระแสสังคมอย่างมากอย่าง Insatiable ที่ดูเผิน ๆ อาจจะคิดว่าเป็นหนังวัยรุ่นใส ๆ ที่ไม่น่ามีพิษภัยอะไร เรทที่ถูกตั้งไว้ก็เพียง 16+ เท่านั้น แต่เมื่อติดตามดูไปเรื่อย ๆ กลับพบว่ามีเนื้อหาล่อแหลมที่เกี่ยวข้องกับการลักเล็กขโมยน้อย โรคจิต ความสัมพันธ์ทางเพศแบบแปลกประหลาด และลุกลามไปใหญ่โตไปจนถึงเหตุฆาตกรรมที่แทบกู่ไม่กลับ เป็นหนังที่สะท้อนสังคมได้อย่างดีว่าบางครั้ง ‘น้ำผึ้งหยดเดียว’ ที่เรามองว่าไม่น่าจะทำอะไรได้ บางทีอาจขยายกลายเป็นปัญหาใหญ่โตที่อาจทำลายอนาคตเราได้ทั้งชีวิต

กลับตัวไม่ได้ เดินต่อก็ไม่หยุดทำผิด

Insatiable เป็นเรื่องราวของเด็กสาวสุดอวบอ้วนอย่าง แพตตี้  ที่รักการกินอาหารขยะทุกชนิดเป็นชีวิตที่จิตใจมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่วันหนึ่งดันโชคร้าย(หรืออาจจะโชคดี)ไปมีเรื่องแย่งขนมกับโจรกระจอกรายหนึ่งจนโดนชกกรามหัก กินข้าวปลาไม่ได้อยู่หลายเดือน ผลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้แพตตี้ลดน้ำหนักฮวบฮาบจนกลายเป็นสาวสวยหุ่นอึ๋ม ไปเข้าตาของทนายผู้มีงานอดิเรกเป็นโค้ชนางงามอย่าง บ๊อบ อาร์มสตรอง เข้าอย่างจัง บ๊อบจึงอาสาจะช่วยให้ทำคดีให้แพตตี้หลุดพ้นข้อหาทำร้ายร่างกายแต่เธอต้องยอมลงประกวดนางงามในสังกัดของเขา เรื่องราวเส้นทางนางงามของแพตตี้จึงได้เริ่มต้นขึ้น

เวลาผ่านไป แพตตี้ก็ยิ่งเรียนรู้ แต่ละครั้งที่แพตตี้ทำสิ่งใดสำเร็จ หญิงสาวก็ยิ่งทวีความต้องการของตัวเองมากขึ้นไปอีก และเริ่มขาดความยับยั้งชั่งใจต่อเรื่องผิดศีลธรรมขึ้นเรื่อย ๆ บ๊อบเองก็เช่นกัน จากปัญหาครอบครัวและความสับสนทางเพศของตนเอง บ๊อบยิ่งปล่อยตัวและถลำลึกไปในวังวนของด้านมืดในใจจนส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตของหลายครอบครัวและหน้าที่การงานของตน ทุกอย่างดูจะยิ่งยุ่งเหยิงไปเรื่อย ๆ เมื่อในที่สุดแพตตี้ก็เผลอพลั้งมือทำร้ายชายหนุ่มโรคจิตที่พยายามแสดงออกถึงความรักที่ตนมีให้แพตตี้จนเกินขอบเขต และเพื่อช่วยแพตตี้ให้รอดจากคดีความ บ๊อบจำต้องยอมช่วยอำพรางคดีเพื่อช่วยปกปิดความผิด ชะตากรรมของคนทั้งสองต่างถลำลึกราวกับตกเหวที่ลึกสุดหยั่งยากจะปีนกลับขึ้นมาได้  ยิ่งดูยิ่งอึดอัดว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองจะปิดฉากความยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้ได้อย่างไร เพราะยิ่งพยายามก็ยิ่งดูเหมือนทุกอย่างจะยิ่งบานปลายไปเรื่อย ๆ

อย่าให้ความไม่รู้จักพอทำลายชีวิตคุณ

สิ่งที่ซีรี่ย์ Insatiable สอนเราได้เป็นอย่างดีก็คงเป็นคำที่ตรงข้ามกับชื่อเรื่อง นั่นคือ การรู้จักพอ เพราะหากเราไม่รู้จักพอและกล้าจะยอมรับความผิดที่ก่อ ตั้งแต่ความผิดนั้นยังเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เราก็อาจจะต้องทำผิดเพิ่มไปเรื่อย ๆ เพื่อปกปิดความผิดแรกนั้นต่อไปไม่สิ้นสุด จนสุดท้ายแล้วอาจจะสายจนเกินแก้

การเริ่มต้นง่าย ๆ ของการรู้จักพอ อาจจะเป็นแค่การ หยุด ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมเป็นอันดับแรก และสัญญากับตัวเองว่าสิ่งไหนที่เราทำผิดไปแล้วเราจะไม่ทำผิดเพิ่มอีก เมื่อตั้งหลักได้ดีแล้วค่อยคิดหาหนทางกันต่อว่าควรแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดไปอย่างไร เพียงเท่านี้ชีวิตของเราก็จะปลอดภัยจากความไม่รู้จักพอที่แสนน่ากลัว