สะท้อนปัญหาการปฏิบัติต่อเหยื่อคดีข่มขืนอย่างไม่เหมาะสม Unbelievable

คดีข่มขืนเป็นหนึ่งในคดีที่มีความละเอียดอ่อนในการดำเนินการใด ๆ ต่อผู้เสียหายอย่างมาก กระบวนการจัดการต่าง ๆ นอกจากต้องคำนึงถึงความถูกต้องในเชิงกฏหมายยังต้องคำนึงถึงเรื่องจิตใจของเหยื่อในคดีข่มขืนอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด เนื่องจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องโหดร้ายต่อการทำใจยอมรับได้โดยง่าย Unbelievable เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์น้ำดีที่เล่าถึงคดีข่มขืนและขั้นตอนการดำเนินการต่อเหยื่อในคดีในแต่ละแบบได้อย่างเข้าลึกเข้าถึงสถานการณ์จริงจนได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ชมมากมายว่าช่วยสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นได้สมจริงอย่างมาก

ความเห็นอกเห็นใจเหยื่อในคดีข่มขืนเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้

เรื่องราวในซีรี่ย์ Unbelievable เล่าถึงคดีข่มขืนของโจรหนุ่มรายหนึ่งที่มีพฤติกรรมแอบงัดเข้ามาในบ้านพักของเหยื่อสาวที่อยู่อาศัยตามลำพังในช่วงดึก และบังคับขืนใจเหยื่อผู้โชคร้ายโดยขู่ว่าหากเธอส่งเสียงขอความช่วยเหลือ เขาจะฆ่าเธอทิ้งทันที ทำให้เหยื่อสาวคนดังกล่าวจำต้องอยู่เฉยยอมให้เขาข่มขืนจนสำเร็จ จากนั้นโจรจะถ่ายรูปภาพอวัยวะเพศของเหยื่อสาวเก็บไว้และข่มขู่ไม่ให้เธอไปบอกใครหรือแจ้งความ มิเช่นนั้นภาพดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ต่อไปทันที โจรปล้นสวาทรายนี้ยังฉลาดพอที่จะทำลายหลักฐานทุกอย่างและบังคับให้เหยื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายเพื่อล้างหลักฐานที่อาจหลงเหลือไว้ให้หมดจด ทำให้ยากยิ่งนักต่อการจะตามล่าตัวเจ้าโจรร้ายคนนี้เนื่องจากมีหลักฐานเพียงคำให้การจากเหยื่อซึ่งให้เบาะแสเพียงน้อยนิด

แต่ประเด็นที่ทำให้ซีรี่ย์ชุดนี้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางไม่ใช่เรื่องของคดีดังกล่าว แต่คือการที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีของเหยื่อแต่ละรายได้ปฏิบัติต่อเหยื่อหลังจากการเกิดเหตุต่างหาก โดยเหยื่อที่น่าสงสารเป็นที่สุดเนื่องจากได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจอย่าง Marie Adler เด็กสาวร่างเล็กที่ถูกคลุมหน้ามัดข้อมือและลงมือข่มขืนอย่างเลือดเย็น  หลังจากการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เด็กสาวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชายหลายรายเข้ามาสอบถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยอ้างว่าต้องรับฟังจากปากเธอโดยตรงเท่านั้น ซึ่งการสอบถามดังกล่าวไม่ได้แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อเธอเสียเท่าไหร่ และยังไล่ให้เธอไปตรวจร่างกายให้เรียบร้อยหลังจากนั้น การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ให้การตรวจรักษาเองก็ไร้ซึ่งความเมตตา เพียงแต่บอกว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนจะเริ่มตรวจตราบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย เจาะเลือดหลายหลอด และตรวจภายในเก็บตัวอย่าง หลังจากการตรวจร่างกาย เธอยังถูกเชิญไปยังโรงพักเพื่อเล่าเหตุการณ์เลวร้ายนั้นให้ฟังซ้ำ ๆ ย้ำเตือนถึงช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นไม่จบสิ้น ด้วยความเหนื่อยทั้งกายและใจที่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดทำให้สุดท้าย Marie ตัดสินใจบอกตำรวจไปว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องโกหก เธอเพียงแค่ฝันว่าโดนข่มขืนและคิดว่าเป็นเรื่องจริงก็เท่านั้น ซึ่งตำรวจก็ได้ต่อว่าเธออย่างแรงที่ได้ล้อเล่นกับเรื่องเหล่านี้ แม้ต่อมาเธอจะพยายามแก้ไขว่าเธอถูกข่มขืนจริง ๆ ตำรวจก็ยังขู่ว่าเธอจะมีความผิดข้อหาแจ้งความเท็จและถูกจับเข้าคุก ทำให้ Marie ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปล่อยเลยตามเลย ตรงกันข้ามกับเหยื่ออีกหลายรายที่ถูกปฏิบัติอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่มีความเห็นอกเห็นใจเหยื่อและตั้งใจในการติดตามหาตัวคนร้ายอย่างที่สุด     เรื่องราวที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความเป็นจริงของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บางกลุ่มที่ขาดความเข้าอกเข้าใจและปฏิบัติตัวต่อเหยื่อคดีข่มขืนอย่างให้เกียรติ และยังช่วยเล่าถึงความรู้สึกทุกข์ทรมานที่เหยื่อในคดีได้รับหลังจากเกิดเหตุ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มนักวิจารณ์ที่ได้ยกย่องว่า Unbelievable เป็นหนังดีที่คู่ควรต่อการดูสักครั้งหนึ่งเลยทีเดียว

ระวังเรื่องการซ้ำเติมผู้เสียหาย เรื่องร้าย ๆ ไม่มีใครอยากให้เกิด

เรื่องเลวร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้วเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ มีแต่เพียงต้องช่วยกันหาทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ การเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของผู้ถูกทำร้ายนับเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานควรคำนึงถึงอยู่เสมอ เพราะหน้าที่ของเราคือการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ไม่ใช่การซ้ำเติมให้ผู้เสียหายรู้สึกแย่กว่าเดิม ความจริงบางอย่างที่สะท้อนอยู่ในซีรี่ย์อาจทำให้เราต้องกลับมาทบทวนบทบาทของตัวเองที่ปฏิบัติต่อผู้เคราะห์ร้ายในคดีข่มขืนกันใหม่ว่าทำตัวเหมาะสมแล้วหรือไม่