มาช่วยกันสืบและคลายปมใน The Girl on the Train

เดอะ เกิร์ล ออน เดอะ เทรน เป็นผลงานของผู้กำกับ เทท เทย์เลอร์ (Tate Taylor) ซึ่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือนวนิยายขายดีสัญชาติอังกฤษของนักเขียน พาวล่า ฮอว์กินส์ (Paula Hawkins) ในผลงานชื่อเดียวกัน และตัวหนังเองยังได้รับรางวัล Hallywood Producer Award จากงานประกาศรางวัล Hallywood Film Awards ครั้งที่ 20 และรางวัล Favorite Triller Movie จากงานประกาศรางวัล People’s Choice Awards ครั้งที่ 43 รวมถึงนักแสดงนำของเรื่องอย่าง Emily Blunt ก็ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในหลายเวทีอีกด้วย

หนังเล่าเรื่องราวของผู้หญิงขี้เมาคนหนึ่ง เรเชล วัตสัน ที่ตกงาน ซ้ำยังมีชีวิตรักที่ล้มเหลว ด้วยความที่เธอดื่มเหล้าหนักมาก เวลาเมาแล้วไม่สามารถจำว่าทำอะไรลงไปบ้าง จนบางครั้งเธอทำร้ายสามีโดยไม่รู้ตัว ทำให้ในที่สุดเธอต้องแยกทางกับสามี เธอจึงออกมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนที่ชานเมืองและยังมีพฤติกรรมดื่มเหล้าอยู่ตลอด เธอหลอกเพื่อนว่ายังทำงานที่ในเมืองจึงต้องนั่งรถไฟเข้าเมืองตลอด แต่ความจริงเธอยังคิดถึงอดีตสามีและอยากจะเห็นความเป็นอยู่ของเขา เพราะเส้นทางรถไฟเส้นนี้เป็นทางผ่านของบ้านอดีตสามีของเธอพอดี ถึงแม้ว่าสามีของเธอจะมีครอบครัวใหม่ที่มีลูกน้อยเป็นโซ่คล้องใจกับภรรยาใหม่ไปแล้วก็ตาม วันหนึ่งขณะโดยสารรถไฟ เรเชลมองดูบ้านสามีเหมือนปกติทุกครั้ง เธอสะดุดตากับหญิงสาวผมบลอนด์คนหนึ่งในบ้านหลังถัดมา จน เรเชลเฝ้าสังเกตเรื่อยมาได้เห็นชีวิตแสนสุขของผู้หญิงคนนั้นและดูเหมือนจะมีความรักที่สวยงามกับสามีซึ่งต่างจากเรเชลอย่างสิ้นเชิง เป็นชีวิตที่เรเชลเองเฝ้าฝันถึงเสมอมา แต่แล้ววันหนึ่งเรเชลกลับเห็นสาวผมบลอนด์คนนี้กอดจูบกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่สามีของเธอ ทำให้เรเชลไม่พอใจผู้หญิงคนนี้มากที่ไม่ซื่อสัตย์กับสามี วันต่อมา เรเชลยังรู้สึกไม่พอใจผู้หญิงคนนั้นและตัดสินใจลงจากรถไฟเพื่อจะไปพบเธอขณะยังอาการเมาอยู่ เรเชลรู้สึกตัวอีกทีที่ห้องพักในบ้านของเพื่อนโดยมีคราบเลือดตามตัวและที่ศีรษะ แต่เธอกลับจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะเดียวกันหญิงสาวผมบลอนด์คนนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซ้ำยังมีคนเห็นเรเชลอยู่ในสถานที่เกิดเหตุในช่วงเวลาที่เธอหายตัวไปอีกด้วย ทำให้เรเชลต้องไปพัวพันกับคดีนี้โดยสิ้นเชิงและขณะเดียวกันสำหรับตัวเรเชลเองก็เป็นการพิสูจน์ว่าความจริงแล้วเหตุการณ์ที่เธอกำลังกลัวลึก ๆ อยู่นี้เกิดขึ้นจริง ๆ หรือเปล่า

สำหรับเราที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนรู้สึกว่า เรื่องนี้เป็นหนังทริลเลอร์อีกหนึ่งเรื่องที่ดูแล้วสนุกและได้คิดตามว่าเนื้อเรื่องจะเป็นไปในทิศทางไหน เรเชลเองก็มีพฤติกรรมถ้ำมองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากภาพเพียงภาพเดียวเธอสามารถคิดและจินตนาการถึงชีวิตผู้หญิงผมบลอนด์คนนั้นว่าต้องสมบูรณ์แบบมากแน่ ๆ จนเกิดเป็นความคาดหวังอย่างจริงจังต่อผู้หญิงคนนั้นโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว แน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ในหนังเองก็เล่าเรื่องของผู้หญิงคนนั้นด้วยว่าเธอเองก็ไม่ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบหรือความรักที่สวยหรูเลย เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนว่าเราไม่สามารถมองหรือตัดสินคน ๆ นึงแค่เพียงจากสิ่งที่ตาเห็น เมื่อความคาดหวังไม่ได้รับการตอบสนองตามต้องการใจ เรเชลเองกลับร้อนรนและทำให้เธอลงจากรถไฟเพื่อทำอะไรบางอย่างจนอาจจะนำไปสู่สถานการณ์เลวร้ายได้ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่าย ๆ ไม่ได้ และหนังเองก็พยายามจะให้คนดูเชื่ออย่างนั้น จะเห็นได้จาก มีประเด็นมาสนับสนุนหรือเคสตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเพื่อที่จะให้คนดูสามารถเชื่อได้ว่าด้วยพฤติกรรมแบบนี้ สามารถเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ อย่างที่ตัวเรเชลเองกำลังหวาดกลัวอยู่

หนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายคล้าย ๆ เรื่อง Gone Girl ถ้าใครชอบหนังทริลเลอร์ในแบบฉบับเกิร์ล ๆ ก็อยากจะแนะนำให้ดู The Girl on the Train ด้วย แล้วคุณจะได้ดูการนำเสนออีกรูปแบบที่ต่างจากความเพอร์เฟควูแมนของ Gone Girl