หลาย ๆ ครั้งค่ายหนังหลายค่ายตั้งใจที่จะนำเอาเกม หรือการ์ตูนที่กำลังเป็นกระแส และผู้คนให้ความสนใจมาก มาทำเป็นหนังที่ใช้คนจริง ๆ โดยหวังว่าจะทำให้หนังได้รับผลตอบรับที่ดีตามต้นฉบับ ซึ่งก็มีหลายเรื่องมากมายไม่ว่าจะจากฝรั่งของฝรั่งเอง หรือจะจากเอเชีย หรือจะเป็นฝรั่งนำงานของเอเชียไปทำเป็นหนังของตัวเอง ก็มีให้เราเห็นมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ผลงานส่วนใหญ่ที่มีที่มาจากเกมหรือการ์ตูนนั้น ค่อนข้างได้รับกระแสในทางที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้หลายคนรู้สึกว่ามันเสียของ และทำลายงานต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง

หลาย ๆ ครั้งมีคนมากมายที่คาดหวัง และรอการมาของการ์ตูนหรือเกมที่เขารักมา ออกมาฉายบนจอเงิน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยจะดี รายละเอียดและเสน่ห์ต่าง ๆ นั้นหายไป รวมไปถึงการประยุกต์สิ่งต่าง ๆ ที่มากเกินไปจนหมดความเป็นต้นฉบับ เหล่านี้ทำให้เห็นที่ทำมาจากเกมหรือการ์ตูนนั้นไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

ประวัติความผิดพลาดของหนังที่ทำมาจากเกมหรือการ์ตูน

                ถ้านับกันจริง ๆ แล้วแทบจะไม่มีหนังเรื่องไหนที่ทำมาจากการ์ตูนหรือเกมแล้วดังได้เท่ากับต้นฉบับ อย่างดีที่สุดคือพอใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในขั้นที่ดีอะไร สาเหตุหลัก ๆ อาจจะเกิดจากเรื่องของระยะเวลา ปกติแล้วเกมหรือการ์ตูนนั้นจะมีเวลามากกว่าหนังที่จะสามารถใส่รายละเอียดต่าง ๆ เข้าไปเพื่อให้ได้อรรถรสและความสนุกสนานมากขึ้น แต่พอมีการนำไปทำเป็นหนังฉายโรง ที่บังคับเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องตัดรายละเอียดเหล่านี้ทิ้งออกไป ซึ่งหลายครั้งและหลายเรื่องที่รายละเอียดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่แสดงถึงเอกลักษณ์และเสน่ห์ของเกมหรือการ์ตูนเรื่องนั้น

ยกตัวอย่างหนังที่ทำจากเกมหรือการ์ตูนเรื่องแรกคือ มาริโอ้ มีการทำหนังมาริโอ้ขึ้นมาโดยใช้ชื่อเรื่องว่า Super Mario Brothers ซึ่งประสบกับความล้มเหลวเป็นอย่างมากทั้งเรื่องของรายได้และคำวิจารณ์ ด้วยเนื้อหาของตัวหนังที่น่าเบื่อแล้ว การดำเนินเรื่องที่ไม่ค่อยจะมีอะไร ทำให้หนังเป็นที่น่าผิดหวังสำหรับแฟน ๆ เกมอมตะอย่างมาริโอ้ เรื่องต่อไปคือ Street Fight เกมต่อสู้สุดฮิตที่ดังไปทั่วโลก เรื่องนี้ก็ถูกเอามาทำเป็นหนังเช่นกัน แล้วก็พังไม่เป็นท่าเช่นกัน ด้วยเนื้อหาของหนังที่ไม่มีอะไรน่าติดตาม การเปลี่ยนลักษณะตัวละคร และลบเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของตัวหนังออกไปจนหมด และทำการตีความใหม่ ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกวิจารณ์จนพังไม่เป็นท่า มาดูการ์ตูนต่อสู้ในตำนานที่ถูกนำมาทำเป็นหนังอย่าง Dragon Ball กันบ้าง เรียกได้ว่าเป็นที่น่าผิดหวังและอับอายขายขี้หน้าเป็นอย่างมากสำหรับ Dragon Ball ฉบับคนแสดง ที่ตัดเอกลักษณ์ความเป็นการ์ตูน Dragon Ball ออกไปอย่างสิ้นเชิง เนื้อเรื่องที่ไม่มีน้ำหนัก และฉากการต่อสู้ที่ใช้ไม่ได้ จึงทำให้เป็นที่น่าผิดหวังอีกเช่นกัน

เหล่านี้ถือเป็นความผิดพลาดต่าง ๆ ของค่ายหนังที่ตัดสินใจจะนำการ์ตูนหรือเกมที่มีชื่อเสียงมาทำเป็นหนัง แต่ขาดการวิเคราะห์ที่ดี และการดัดแปลงเนื้อเรื่องหรือตัวละครให้เหมาะสม โดยที่ไม่ได้ลบกลิ่นอายความเป็นเอกลักษณ์ของการ์ตูนหรือเกมนั้น ๆ ไป หวังว่าในอนาคตจะมีหนังที่สร้างมาจากเกมหรือการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จได้เท่ากับของต้นฉบับให้เราได้ชมกัน