คอภาพยนตร์ทุกคน คงเคยรู้จักภาพยนตร์ต่างประเทศเกี่ยวกับพี่เลี้ยงเด็ก หรือแม่นมที่จะต้องเดินทางมาที่บ้าน ยามพ่อแม่ไม่อยู่ เพื่อดูแลเหล่าเด็ก ๆ และก็จะเจอกับเด็กซนจอมแสบทั้งหลาย จนกระทั่งมีคนที่สามารถรับมือได้ แต่บอกไว้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะมีอยู่แค่ในเทพนิยายเท่านั้น ถ้าเอามาใช้กับเรื่องนี้ ที่ถึงแม้จะเจอแม่นมนี่เก่งที่สุดในเมือง ก็ยังแพ้พ่ายต่อลูก ๆ ทั้ง 7 คนของครอบครัวบราวน์มาแล้ว จนมิสเตอร์บราวน์ผู้ซึ่งเป็นพ่อ แทบจะหมดหนทาง เพราะเขาได้เปลี่ยนแม่นมมาหลายคนมาก หลังจากที่ภรรยาเขาเสียชีวิต
เด็กทั้ง 7 คนกลายเป็นเด็กก้าวร้าว ชอบทำบ้านเลอะเทอะ ชอบโวยวายเสียงดัง และดื้อแบบสุด ๆ พวกเขาจะรวมหัวกันเพื่อคอยขวางกั้นแม่นมทุกคนที่เข้ามา ทำทุกวิถีทางให้อยู่ที่นี่กับพวกเขาไม่ได้ ฟังดูแล้วคุณคงคิดว่าพวกเขาช่างดูเลวร้ายเสียจริง แต่แท้ที่จริงแล้วพวกเขาเป็นเพียงเด็กที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ เพราะพ่อไม่ได้ดูแลพวกเขาเหมือนเคย เขาคิดว่าพ่อเอาแต่ทำงานกับหาแม่ใหม่ให้พวกเขาอยู่ตลอดเวลา และวันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “แม็กฟี่” เข้ามาในบ้านหลังนี้ ในฐานะแม่นมของพวกเด็ก ๆ ซึ่งครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
เพราะเธอคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา หากแต่เธอมีเวทมนต์ที่เพียงเคาะไม้เท้าก็ได้สมใจหวัง แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ยกเว้นคนที่ถูกสอน โดยแม็กฟี่ได้คุยกับคุณบราวน์ไว้ว่า เธอจะสอนเด็ก ๆ 5 บทเรียน แต่ความเข้มข้นของเรื่องนี้กลับไม่ได้อยู่ที่เวทมนต์ของเธอ แต่เป็นความรู้สึกของพวกเด็ก ๆ หลังจากที่ได้อยู่กับแม่นมแม็กฟี่ไปเรื่อย ๆ ความสัมพันธ์ที่เริ่มแน่นแฟ้นจากคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ได้เชื่อมไปสู้อีกคนหนึ่งเรื่อย ๆ แล้วบทเรียนที่เด็ก ๆได้ มันไม่ใช่แค่ที่แม่นมแม็กฟี่พูดสอนอีกต่อไป เพราะสิ่งที่เขาหัดรับรู้และรับผิดชอบด้วยตัวเอง ทำให้เขาได้ผลลัพธ์เป็นบทเรียนที่มีค่า ที่คนในครอบครัวบราวน์อาจจะเพิ่งเคยได้สัมผัส
สีสันของภาพยนต์เรื่อง Nanny McPhee ไม่ได้มีแค่แม่นมที่เป็นแม่มดกับเด็กซนทั้ง 7 แต่ยังมีตัวละครอื่น ๆ และตัวละครหลักอีกตัวอย่าง อีวาน เจลลีน หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นคนครัวในบ้านของมิสเตอร์บราวน์ ที่เขาหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว แต่วันหนึ่งเธอกลับจากไป ในเรื่องนี้เลยไม่ได้มีแค่ปัญหาของเด็ก ๆ เพียงปัญหาเดียว แต่ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีก และบางอย่างแม่นมแม็กฟี่เลือกที่จะไม่ใช้เวทมนต์กับบางสิ่ง ซึ่งต้องคิดหาทางออกกันเอง จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้แฝงด้วยข้อความหลากหลายรส ทั้งอบอุ่น เศร้า หัวเราะ นี่จึงเป็นภาพยนตร์หลากหลายสีสันที่เน้นไปในเรื่องครอบครัวและไม่ควรพลาดเลยทีเดียว