ให้หนังเก่าเล่าเรื่อง

ประวัติศาสตร์เรื่องไหน ที่คนไทยต้องดู

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา วงการหนังไทยได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นชาติสยามในอดีต ที่กว่าจะเดินทางมาถึงชาติที่ได้ชื่อว่าเป็น “ชาติประชาธิปไตย” ในทุกวันนี้ โดยมีการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพยนตร์ออกมาเป็นระยะ ซึ่งมีหนังประวัติศาสตร์ไทยหลายเรื่องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น “สุริโยไท” สร้างโดย สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร ซึ่งทำรายได้สูงถึง 324.5 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2544  โดยตัวเนื้อหาเน้นนำเสนอถึงความกล้าหาญของวีรสตรีไทย ผู้ซึ่งเสียสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องพระสวามีจากการถูกโจมตีจากกองทัพพม่า ในสงครามพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้  ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่องคือ “บางระจัน” ได้ถูกนำมานำเสนอในรูปแบบละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ ที่มีออกมาให้ชมถึง 2 ภาค เป็นเรื่องราวที่คนไทยรู้จักกันดี สำหรับชาวบ้านเมืองสิงห์บุรีและหมู่บ้านอื่น  ๆ ที่อพยพมาหลบภัยสงครามและรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับกองทัพพม่า ถึงแม้ท้ายที่สุดจะไม่สามารถรักษาหมู่บ้านเอาไว้ได้ แต่ชาวบ้านบางระจันก็สามารถมีชัยจากทัพพม่าได้ในหลายศึก จนได้ชื่อว่า ” แข็งเเกร่งกว่ากรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น” และภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เรื่องสุดท้ายที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้ สำหรับ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร” ที่มีออกมาให้ชมกัน 5 ภาค โดยเล่าเรื่องย้อนไปตั้งแต่พระนเรศวรยังทรงพระเยาว์ ซึ่งตกเป็นตัวประกันของหงสาวดีไปจนถึงภาคสุดท้ายที่พระองค์เสด็จสวรรคตลง ซึ่งตลอด 5 ภาค มีการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นตอนตามเหตุการณ์สำคัญถูกบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ไทย

ประวัติศาสตร์ไทยสอนอะไรเรา

สิ่งที่ภาพยนตร์ได้สื่อสารออกมา ไม่ใช่เพียงเเค่ต้องการนำเสนอภาพหรือฉากที่ดูอลังการสมจริง แต่เป็นการเล่าเรื่องย้อนกลับไปในอดีต เพื่อให้คนไทยได้มองเห็นและตระหนักถึงความเป็นมาของคนในชาติ ความเสียสละของปู่ย่าตายาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้เตือนใจคนไทยในหลาย ๆ ครั้ง ว่ากว่าประเทศจะเป็นประเทศ กว่าไทยจะเป็นไทย ประเทศที่ไม่เคยตกอยู่ภายใต้อำนาจของชาติใดในโลก เราต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อของบรรพบุรุษ การระลึกถึงคุณงามความดีเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงเป็นการสรรเสริญหรือชื่นชม แต่เป็นการเตือนสติ ในวันที่ไทยมีพร้อมในทุก ๆ สิ่ง เรากลับเริ่มหลงลืมบางสิ่ง ลืมวันที่เคยลำบาก ความสามัคคีที่มีเริ่มจางหาย ความเห็นใจซึ่งกันและกันกลับลดลง เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และเชื่อว่าเหตุผลของตนคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว บางทีการได้ย้อนกลับไปดูหนังประวัติศาสตร์เก่า ๆ อาจจะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ดึงสติและความคิดของคนไทยให้กลับมาทำความเข้าใจกับบางเรื่องใหม่ ซึ่งถึงแม้ภาพยนตร์อาจะเป็นเรื่องราวเล็ก ๆ เเต่หนังที่ดีจะพาคนดูเข้าถึงความรู้สึกนั้นได้ไม่ยาก