จริงๆแล้วการดูหรือรับชมภาพยนตร์ก็สามารถรับชมภาพยนตร์อยู่ที่บ้านก็ได้ไม่ว่าจะเป็นการเช่าวีดีโอ วีซีดี ดีวีดีแบบสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันที่ดูภาพยนตร์ผ่านอินเตอร์เน็ตในระดับความคมชัดสูงได้แล้ว การรับชมภาพยนตร์จึงมีช่องทางการรับชมได้หลายหลายทาง อีกทั้งยังมีภาพยนตร์ให้เราเลือกดูไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฝรั่งจากฮอลลีวูด จีน เกาหลีรวมถึงภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันและอีกหลายๆรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแนวอินดี้ ภาพยนตร์ชุดเป็นซีรีย์ก็มีให้เลือกดูมากมายตามความพอใจที่เราสามารถเลือกได้ตามต้องการ แต่ถึงอย่างไรก็อาจมีหลายคนที่มีความคิดเห็นตรงกันในเรื่องนี้ว่าแม้การดูภาพยนตร์สามารถรับชมได้หลากหลายช่องทางในสมัยนี้ไม่ว่าจะที่บ้านผ่านทีวีจอยักษ์ ผ่านอินเตอร์เน็ต ผ่านคอมพิวเตอร์รวมถึงการดูภาพยนตร์ผ่านมือถือได้ก็ตาม แต่การที่ได้ไปชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์นั้นยังคงรู้สึกว่าได้รับอรรถรสในการดูหนังได้ดีได้เต็มที่สุดเพราะการไปดูที่โรงภาพยนตร์นั้นนอกจากจะได้รับชมภาพยนตร์บนจอใหญ่ยักษ์แล้วยังมีแสง สี เสียงพร้อมให้ความสนุกสมบูรณ์ไปพร้อมกับหนังที่เรารับชมและแถมยังได้ถือว่าเป็นกิจกรรมบันเทิงนอกบ้านที่สนุกๆอีกต่างหาก และยิ่งถ้าเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมากำกับมีบทภาพยนตร์ที่ดีน่าสนใจประกอบกับการลงทุนมหาศาลในการสร้างฉากใหญ่โตในภาพยนตร์เรื่องนั้นแล้วจึงพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องไปดูที่โรงภาพยนตร์เพื่อได้รับความบันเทิงจากระบบการฉายภาพ แสง สี เสียงที่มีอยู่ในโรงภาพยนตร์ได้อย่างเต็มที่
เมื่อพูดถึงการไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์มากมายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองและมักมีหลายๆโรงเช่นในห้างสรรพสินค้าที่มีโรงภาพยนตร์เป็นสิบโรงมีหนังหลายเรื่องให้เลือกบางเรื่องเข้าหลายโรงหลายรอบมีทั้งระบบปกติไปจนถึง3มิติส่วนที่นั่งก็มีให้เลือกที่นั่งตั้งแต่ที่นั่งธรรมดาจนไปถึงที่นั่งพิเศษที่มีราคาสูงไปตามระดับ การซื้อตั๋วเดี๋ยวนี้ก็สามารถซื้อได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะซื้อที่หน้าเคาน์เตอร์ ที่ตู้อัตโนมัติหรือซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ทางมือถือก็ได้แล้วและเราจะได้รับตั๋วหนังที่ปริ๊นออกมาจากเครื่องมาให้เราก่อนเข้าชม พอพูดมาถึงตรงนี้ทำให้มีความรู้สึกนึกย้อนไปถึงวันวานก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของการชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์ที่ได้อารมณ์คนละแบบซึ่งการชมภาพยนตร์ในสมัยก่อนที่จำได้นั้นโรงภาพยนตร์จะตั้งอยู่เดี่ยวๆไม่ได้อยู่ตามห้างเหมือนในปัจจุบันและมักจะมีโรงหนังเพียงหนึ่งโรงและก็มีแค่หนังหนึ่งเรื่องรอบเวลาก็มีให้เลือกไม่มากเพราะถ้ามาไม่ทันรอบก็ต้องรอให้หนังฉายจบก่อนถึงจะเป็นรอบถัดไปทำให้ เวลาจะไปดูหนังตอนนั้นก็ต้องเตรียมตัวเหมือนไปเที่ยวเพราะต้องใช้เวลาพอสมควรตั้งแต่ตอนไปจนถึงกลับก็ใช้เวลาไปเกือบ
ครึ่งวันเห็นจะได้เลยแถมตอนไปต้องลุ้นว่าจะไปทันรอบรึเปล่าก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบและยังจำได้ว่าเวลาอยากจะดูหนังเรื่องอะไรก็ต้องมาเปิดหนังสือพิมพ์ดูว่าภาพยนตร์ที่อยากดูนั้นเข้าที่โรงหนังไหนบ้างมีเข้าแถวโรงหนังใกล้บ้านรึเปล่าถ้าไม่มีเข้าแถวบ้านแล้วไปเข้าที่โรงหนังแถวไหนต้องวางแผนเดินทางไปดูเลย การซื้อตั๋วหนังสมัยนั้นก็ต่างจากตอนนี้เพราะต้องไปเลือกที่นั่งตามแผนผังที่นั่งแล้วให้คนขายใช้ปากกาเมจิกขีดๆเขียนๆตั๋วว่านั่งที่ตรงไหนมาให้ใช้ระบบมือล้วนๆไม่ได้ปริ๊นออกมาเหมือนสมัยนี้และอีกอย่างหนึ่งที่ชอบก็คือ
บรรยากาศของโรงหนังสมัยนั้นก็มีความเย็นยะเยือกบอกไม่ถูกมีกลิ่นของโรงหนังที่อธิบายไม่ได้ และในโรงหนังก็จะมืดถึงมืดมากและก็จะมีคนถือไฟฉายบอกทางให้ไปตรงที่เรานั่งตามตั๋ว ส่วนใหญ่ตอนนั้นเวลาไปดูภาพยนตร์ก็จะรีบๆเข้าไปทันทีที่เปิดให้เข้าเพราะไม่อยากเข้าช้ายิ่งมืดสนิทและที่สำคัญที่ไม่อยากพลาดก็คือการได้ชมภาพยนตร์ตัวอย่างที่กำลังจะเข้ามาฉายซึ่งถ้าพลาดไม่ได้ดูจะรู้สึกแปลกๆเหมือนขาดอะไรไปเลยและยิ่งถ้าได้เห็นภาพยนตร์ตัวอย่างเป็นเรื่องที่อยากดูด้วยก็เตรียมวางแผนมาดูล่วงหน้าเลยว่าเข้าเมื่อไหร่ไม่พลาดแน่ พอดูหนังเสร็จก็ออกมาหาอะไรกินข้างทางแถวๆโรงหนังเป็นอันสมบูรณ์ในการดูหนังครั้งนี้ ส่วนโรงภาพยนตร์สมัยก่อนที่จำได้ว่าใช้บริการเป็นประจำก็คือโรงภาพยนตร์วอชิงตัน วิลล่า สุขุมวิทที่อยู่ละแวกใกล้ๆกันรวมถึงสกาล่า สยามก็ไปใช้บริการบ่อยเหมือนกันซึ่งปัจจุบันปิดตัวกันไปหมดแล้วจะเหลือก็เพียงสกาล่าที่ยังเปิดให้บริการอยู่ซึ่งถ้าว่างเมื่อไหร่ก็ไม่พลาดที่จะไปดูหนังที่สกาล่าเพื่อย้อนความรู้สึกการดูหนังในวันเก่าๆ
จากวันวานจนถึงวันนี้แม้ว่ารูปแบบการดูหนังในโรงภาพยนตร์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาทั้งตัวสถานที่ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาแต่การรับชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ก็ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะสมัยไหนก็ตาม การได้ชมภาพยนตร์ยังคงให้ความบันเทิงต่อผู้รับชมเสมอและยังรู้สึกสนุกสุขใจทุกครั้งที่ได้ชมภาพยนตร์…