ปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นในโลกอินเตอร์เน็ตหรือโลกโซเชียลเห็นจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายเพียงแค่กระดิกนิ้วพิมพ์แล้วกดโพสหรือแชร์ลงไป ความคิดเห็นนั้นก็จะแพร่กระจายออกไปสู่สายตาสาธารณชนได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ข่าวสาร สินค้า ดารา และอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมในการออกมาแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ก็คือการวิจารณ์ภาพยนตร์นั่นเอง ที่ในอดีตการวิจารณ์หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับหนังนั้นต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้กำกับ ผู้คร่ำหวอดในวงการที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างจากสังคมเท่านั้น จึงจะกล้าออกมาวิเคราะห์หรือให้คะแนนหนังที่กำลังเข้าฉาย แต่ดูเหมือนว่าโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วที่แทบจะตามกันไม่ทันในตอนนี้ทำให้วัฒนธรรมหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปเสียแล้ว
เมื่อภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉาย มักจะมีการปล่อยตัวอย่างหนังที่เรียกว่า Trailer ออกมาเรียกน้ำย่อยให้แก่ผู้ชม และคอหนังได้ดูกันก่อน พร้อมกับการแนะนำตัวนักแสดงและพล็อตเรื่องคร่าวๆ ของภาพยนตร์ ซึ่งคอหนังและผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงประเภทนี้มักจะติดตามกันอย่างใกล้ชิด ว่าหนังภาคต่อ หรือดารานักแสดงที่ตัวเองชื่นชอบ จะเล่นหนังเรื่องอะไร และน่าสนใจคุ้มค่ากับค่าตั๋วในการเข้าชมหรือไม่ โดยในอดีตการติดตามข่าวสารของวงการหนังนั้นอาจจะต้องติดตามในช่องทางสื่อโทรทัศน์และนิตยสาร โดยเฉพาะแมกกาซีนเกี่ยวกับหนัง สื่อเฉพาะกลุ่มที่เจาะลึกนำเสนอเฉพาะข่าวสารของวงการหนัง ที่นอกจากจะเป็นการแนะนำภาพยนตร์ก่อนเข้าฉายแล้ว ยังเป็นที่ระลึกให้แฟนหนังซื้อหนังสือเหล่านั้นไปเก็บไว้สำหรับชื่นชมหนังที่ตัวเองชื่นชอบได้อีกด้วย โดยเนื้อหาในแม็กกาซีนมักจะมีสกู๊ปสัมภาษณ์นักแสดง แนะนำภาพยนตร์ รวมทั้งคอลัมน์วิจารณ์และให้คะแนนหนังที่เข้าฉายไปแล้ว จากกูรู และผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับจากในแวดวงด้วย นอกจากช่องทางนิตยสารแล้ว ในสื่อหลักอย่างโทรทัศน์ก็ได้รายการแนะนำและวิจารณ์ภาพยนตร์เช่นกัน ซึ่งคอหนังส่วนใหญ่คงเคยได้ติดตามและรับชมรายการเหล่านี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องยอมรับว่านักวิจารณ์หนังที่เห็นหน้าเห็นตากันในวงการนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
แตกต่างกับในปัจจุบันที่การวิพากษ์วิจารณ์หนังทำได้ง่ายเสียเหลือเกินในช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ ไม่รวมถึงเวปไซต์ชื่อดังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเวปไซต์ให้คะแนนหนังของวงการที่ได้รับการยอมรับมาเป็นระยะเวลายาวนาน จะเห็นได้ว่าในโลกโซเชียลนั้นได้มีกูรูหนังเกิดขึ้นมากมายที่ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นวิเคราะห์ วิจารณ์ ให้คะแนนหนังกัน ซึ่งใช่ว่าการแสดงความคิดเห็นเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสียที่เดียว การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรเปิดรับเพื่อพิจารณาช่วยในการตัดสินใจเลือกชม และเปรียบเทียบว่าความรู้สึกหลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์แล้ว เป็นไปอย่างที่โลกโซเชียลได้วิเคราะห์วิจารณ์ออกมาหรือไม่ สำหรับการแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์หนังผ่านโลกออนไลน์ในประเทศไทยนั้นแท้จริงแล้วได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานบนเวปไซต์ pantip.com สังคมกระทู้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีการกำกับไว้ในการแสดงความคิดเห็นเสมอถึงการห้ามสปอยด์ หรือการเปิดเผยเนื้อหาหลักของหนัง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียอรรถรสของผู้อ่านที่ยังไม่ได้รับชมภาพยนตร์
การออกมาวิเคราะห์วิจารณ์ แสดงความเห็น รวมทั้งให้คะแนนหนังตามหน้าเพจ บล็อก หรือเวปไซต์ต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างอิสระเสรี แต่ผู้อ่านหรือผู้เสพนี่แหละจะต้องเป็นคนใช้วิจารณญาณในการอ่านว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือจะเปิดโอกาสให้กระแสของบทวิเคราะห์นั้นชี้นำการตัดสินใจไปดูหนังของตัวเองได้หรือไม่ ผู้อ่านหลายคนที่เมื่อได้ยินการบอกต่อ หรือได้อ่านบทวิจารณ์แล้วพบว่าหนังเรื่องนั้นๆ ไม่สนุก ก็เป็นปัจจัยให้เกิดการตัดสินใจไม่ไปชมภาพยนตร์เสียแล้วเพราะได้ประเมินไปตามคำบอกเล่าว่าหนังเรื่องนี้ต้องไม่น่าดูอย่างแน่นอน แตกต่างกับผู้อ่านที่เป็นคอหนังที่แท้จริงที่มักจะไม่เชื่อคะแนนวิจารณ์เด็ดขาด อีกทั้งยังต้องไปดูด้วยตัวเองจึงจะบอกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นดีหรือไม่ดี ข้อเท็จจริงคือการตัดสินว่าภาพยนตร์เรื่องไหนดีหรือไม่ดีนั้น ไม่มีเกณฑ์มาตรฐานหรือมาตรวัดที่แน่นอนบอกได้ เพราะความชอบหรือรสนิยมของผู้ชมแต่ละท่านไม่เหมือนกัน หนังเรื่องที่ดีของคนหนึ่ง อาจจะเป็นหนังที่ไม่ดีเอาเสียเลยของอีกคนหนึ่งก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นหลังจากที่ได้อ่านบทวิเคราะห์วิจารณ์หนังแล้ว อยากให้หลายคนเปิดใจลองชมดูเองก่อนจะดีกว่า เพราะเรื่องที่คะแนนวิจารณ์ออกมาไม่ดี อาจเป็นหนังที่โดนใจและเป็นที่ชื่นชอบของเราก็เป็นได้