อย่างแรกสิ่งที่เราจะได้อย่างแน่นอน อย่างที่กล่าวไปข้างต้น นั้นคือความสนุก การชมภาพยนตร์คือกิจกรรมการพักผ่อนอย่างหนึ่ง เป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ มีหนังมากมายที่เน้นให้ความสนุกเป็นหลัก เช่น หนังต่อสู้ หรือที่เราเรียกว่า หนังแอคชั่น หนังตลก หรือหนังเพลง หนังเหล่านี้สร้างมาเพื่อให้ความบันเทิงเป็นหลัก นอกจากความสนุกแล้ว เราอาจได้ความรู้ บทเรียน หรือประสบการณ์จากการดูหนัง เช่นหนังประวัติศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานที่ อย่างหนังชื่อ อเล็กซานเดอร์ มหาราชชาตินักรบ (Alexander) ที่เป็นหนังชีวประวัติ หรือ ทรอย (Troy) ที่เล่าเกี่ยวกับประวัติของเมืองทรอยว่าล่มสลายได้อย่างไร นอกจากความรู้เรื่องประวัติศาสตร์แล้ว เรายังได้เรียนรู้เรื่องของศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นหนังฝรั่ง เราก็จะได้เห็นสภาพบ้านเมือง ศิลปะการออกแบบตึกรามบ้านช่องต่างๆ หรือการดำรงชีวิตของคนอเมริกา ว่าพวกเขาเดินทางและทำงานกันอย่างไร อาหารการกินเป็นแบบไหน ใช้ชีวิตกันยังไง เทคโนโลยีความทันสมัยพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ไปจนถึงข้อคิดบางอย่างที่เราจะได้ เช่น ทักษะในการเข้าสังคม หรือแนวคิดวิธีการแก้ไขปัญหา หนังบางเรื่องยังช่วยสะท้อนสภาพสังคมได้อีกด้วย เช่น ไดเวอเจนท์ (Divergent) หนังที่ถ่ายทอดเรื่องของสภาพสังคมที่มีการแบ่งแยก เป็นต้น
นอกจากนี้บางคนยังใช้ภาพยนตร์เพื่อฝึกฝนภาษา คนไทยดูหนังฝรั่งเพื่อศึกษาการใช้ภาษาอังกฤษ เช่นสำเนียง สำนวนการพูด วิธีใช้คำ เรียนคำศัพท์แปลกๆ ที่เราอาจไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ทุกคนที่ต้องการศึกษาภาษาที่สอง ไม่ว่าจะภาษาญี่ปุ่น จีน หรือฝรั่งเศส ก็สามารถใช้ภาพยนตร์เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งได้ เพราะบางครั้งการเรียนรู้ผ่านตัวอักษร อาจจะน่าเบื่อและไม่น่าสนใจสำหรับใครหลายๆ คน ดังนั้นการเรียนรู้ผ่านภาพเคลื่อนไหวจึงน่าสนใจมากกว่า (และได้ความเพลิดเพลินด้วย) หนังบางเรื่องยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นำไปต่อยอดเกิดเป็นหนังสือนิยาย หนังเรื่องใหม่ หรือภาพวาดสักรูป ไปจนถึงสินค้าหรือบริการใหม่ คุณอาจได้ไอเดียแนวคิดสำหรับการทำธุรกิจที่ไม่เคยมีใครคิดถึงมาก่อนเลยก็เป็นได้ แรงบันดาลใจที่ว่ายังหมายถึงกำลังใจอีกด้วย สำหรับบางคนที่มีช่วงเวลาของชีวิตที่เลวร้าย
การได้มาดูหนังจะช่วยให้คนๆ นั้นมีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไปข้างหน้าได้ หรืออาจได้แนวทางการใช้ชีวิตดีๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตของตนก็ได้ด้วยเช่นกัน ในต่างประเทศมีการใช้หนังบำบัดช่วยเหลือคนที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ เช่น คนติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดสิ่งเสพติด มีปัญหาชีวิต อกหัก คนเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า ขาดความมั่นใจในตนเอง ไปจนถึงคนที่ต้องการฆ่าตัวตาย เราเรียกว่า ภาพยนตร์บำบัด โดยจะเป็นการใช้หนังสร้างกำลังใจให้กับคนที่มีปัญหาอย่างที่กล่าวไป เมื่อคนเหล่านี้ได้เห็นบุคคลในหนังที่ประสบปัญหาเหมือนกับตนเองและ
สามารถเอาชนะผ่านปัญหาอุปสรรคไปได้ พวกเขาก็จะเกิดกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง มีหนังมากมายที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ เช่น หนังเรื่อง ประกาศก้องจอมราชา (The King’s Speech) กล่าวถึงกษัตริย์พระเจ้าจอร์จที่หก ซึ่งประสบปัญหาอาการพูดติดอ่าง ทำให้พระองค์เกิดความไม่มั่นใจในตนเอง ต่อมาจึงได้รับการช่วยเหลือจากนักบำบัดอาการบกพร่องทางการพูด จนทำให้พระองค์เอาชนะปมด้อยของตนเองได้ในที่สุด ประโยชน์อีกข้อจากการชมภาพยนตร์คือ การสร้างความสัมพันธ์ การดูหนังเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ช่วยรวมผู้คนมาอยู่ที่เดียวกัน และปฏิบัติไปด้วยกัน โทรทัศน์มักเป็นจุดที่คนในครอบครัวจะมาใช้เวลาร่วมกัน หรือแม้แต่เพื่อนฝูง
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือโรงหนัง คู่รักก็เช่นเดียวกัน คนที่จีบกันใหม่ๆ มักจะใช้โรงหนังเป็นสถานที่แรกๆ ในการชวนออกเดต อีกเรื่องที่ขอแนะนำ คือเรื่องประโยชน์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูหนังเรื่องเดิมหลายๆ รอบ จากการศึกษาพฤติกรรมของ Cristel Antonia Russell จาก American University บอกไว้ว่าส่วนใหญ่เมื่อผู้คนดูหนังในรอบแรก พวกเขาจะให้ความ
สนใจในตัวหนังเฉพาะจุดเด่นๆ หรือเหตุการณ์ที่สำคัญๆ เท่านั้น แต่ผู้คนที่ได้ดูในรอบที่สองจะสามารถซึมซับและดื่มด่ำความรู้สึก เกิดความรู้สึกที่ดีกับหนังเรื่องนั้นๆ มากกว่าการดูแค่รอบเดียว ดังนั้นผู้ที่ดูหนังเรื่องเดิมสองรอบก็จะเข้าใจในสารที่ตัวหนังพยายามสื่อได้ดียิ่งขึ้น และทำให้เก็บรายละเอียดเล็กๆ ที่เราอาจไม่เห็นจากการดูในรอบแรกได้อีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวไปคือสิ่งที่คุณจะได้จากการชมภาพยนตร์ และหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ได้จากการดูหนังเรื่องโปรดของคุณ