เมื่อคนไทยสร้าง “Animation”

หากถามถึงภาพยนตร์การ์ตูน Animation ที่ผู้ชมยังคงจำฉากสำคัญหรือวลีเด็ดได้มาจนถึงทุกวันนี้ คงหาคำตอบได้ไม่น้อย เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ค่ายหนังทั่วโลกมีการนำเสนอเรื่องราวผ่านภาพยนตร์แอนนิเมชันอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละค่ายก็จะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไป ส่วนภาพยนตร์แอนิเมชันที่สร้างออกมาโดยฝีมือคนไทยเอง ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังทำเงิน ไม่ว่าจะเป็น “ยักษ์” หรือ “The Giant King” โดยมีเค้าโครงมาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ที่นำเสนอออกมาในรูปแบบของหุ่นยนต์ โดยเป็นการเล่าเรื่องเหตุการณ์หลังสงครามที่ทำให้ “น้าเขียว” ยักษ์ใหญ่ตัวโตน่าเกรงขามกับ “เจ้าเผือก” หุ่นยนต์ตัวจิ๋ว ที่ถูกโซ่ล่ามติดกัน ทั้งคู่พยายามหาวิธีที่จะทำให้โซ่ขาดจากกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ ตลอดทางมีเรื่องราวมากมายที่ทั้งสนุกและตื่นเต้น โดยสุดท้ายน้าเขียวต้องตัดสินใจเลือกระหว่างมิตรภาพกับหน้าที่ ในตัวของภาพยนตร์พยายามนำเสนอความรัก ความผูกพันระหว่างเพื่อน รวมถึงความเสียสละ ซึ่งผู้สร้างได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้งดงามบวกกับภาพการ์ตูนน่ารัก ๆ แนวใหม่ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด ส่วนภาพยนตร์แอนิเมชันอีกเรื่อง “ก้านกล้วย” ซึ่งได้รับความนิยมจนรายได้พุ่งสูงถึง 103.5 ล้านบาท ในปี 2006  โดยใช้ “ช้าง” เป็นตัวดำเนินเรื่อง โดยได้รับรางวัล Best Feature Film จากการประกวด Animation 2006 จากประเทศสเปน และรางวัลภาพยนตร์เกียรติยศแห่งปีอีกด้วย “ก้านกล้วย” เป็นการบอกเล่าเรื่องราวในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การใช้ “ช้าง” เป็นตัวดำเนินเรื่องราว เพราะถือว่าเป็นสัตว์ประจำชาติ เริ่มต้นเรื่องด้วยวัยเด็กของก้านกล้วย ไปจนถึงการสู้ศึกร่วมกับพระนเรศวร จนได้รับชัยชนะจากกองทัพพม่า ตลอดทั้งเรื่องมีทั้งความรู้และแง่คิดดี ๆ แฝงอยู่ ทำให้ก้านกล้วยทำรายได้สูงสุดในปี 2006

เพราะ “แอนิเมชันไทย” ให้อะไรมากกว่า “การ์ตูน”

การที่แอนิเมชันไทยมีเนื้อเรื่องที่ดี อ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ หรือเปรียบเทียบให้เห็นว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แอนิเมชันมีสไตล์แตกต่างออกไป สำหรับการ์ตูนหรือแอนิเมชันถือได้ว่าสร้างความบรรเทิงให้เด็ก ๆ อยู่ไม่น้อย การที่พวกเขาได้เรียนรู้และค่อย ๆ ซึมซับสิ่งเหล่านี้ ให้ได้พิจารณาข้อดีข้อเสียจากตัวละครที่ดำเนินเรื่อง ทำความเข้าใจว่าสิ่งใดถูกหรือสิ่งใดผิด สิ่งใดควรทำและสิ่งใดควรเลี่ยง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการโดนดุเวลาเขาทำผิด แต่ผู้ใหญ่กลับลืมอธิบายเหตุผลให้เด็กฟัง การที่เด็กได้ชมภาพยนตร์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับฝึกให้เขามีเหตุผล และรู้จักคิดวิเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง