อิทธิพลของภาพยนตร์กับการเสียดสีสังคมในยุคปัจจุบัน

นอกจากละครทีวีในปัจจุบันนี้ที่มีมากมายหลากหลายเรื่องให้ผู้คนได้เลือกชมเลือกดูยังรวมไปถึงภาพยนตร์ที่มีมากมายหลากหลายให้เลือกชมด้วยเช่นกัน โดยในปัจจุบันนี้จะเรียกได้ว่าภาพยนตร์นั้นถือเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างความรื่นเริงและสามารถช่วยในการผ่อนคลายความเครียดเนื่องจากปัญหาชีวิตประจำวันจนถึงเรื่องของปัญหาเรื่องของการงานหรือว่าการเรียนเป็นต้น นอกจากนั้นแล้วหนังละครหรือภาพยนตร์ก็สามารถสร้างความรื่นเริงให้กับคนในครอบครัวช่วยให้คนในครอบครัวได้มีโอกาสพบปะหน้ากันและทำกิจกรรมร่วมกันในยามว่างนั่นเอง นับได้ว่าการดูหนังดูละครนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นช่วยให้คนในครอบครัวได้มีกิจกรรมดีๆที่สามารถทำร่วมกันได้อย่างสนุกสนานอีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนในครอบครัวมีโอกาสพบปะพูดคุยกันโดยเฉพาะในวันหยุดที่หลายๆคนอยากจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านนั่นเอง แต่ในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าละครหรือ

ภาพยนตร์ต่างๆที่มีฉายหรือว่าเผยแพร่ทางสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นชายตามโรงหนังหรือตามสื่อโทรทัศน์ต่างๆนั้นนับได้ว่าปัจจุบันมีกระแสที่เรียกได้ว่าเป็นการเสียดสีสังคมมากยิ่งขึ้นซึ่งหากจะดูหนังและละครเหล่านั้นก็ย่อมต้องมีการใช้วิจารณญาณในการรับชมอีกทั้งหากในบ้านมีเด็กเล็กนั่งดูหนังดูละครอยู่ด้วยก็ควรที่จะให้ความรู้พร้อมกับบอกสอนเด็กในเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับละครนั้นด้วยเช่นกันเพราะหากละครที่มีคำพูด หรือเนื้อหาบางอย่างที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้เด็กนำไปใช้ได้อย่างไม่ถูกต้องและไม่สมควรนั่นเอง
อิทธิพลของภาพยนตร์กับการเสียดสีสังคมในยุคปัจจุบันนี้ถือได้ว่ามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆโดยปัจจุบันนี้จะมีการหยิบยกเอาปัญหาสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมาสร้างให้เป็นละครเหมือนจำลองจากละครฉากใหญ่มาเป็นละครฉากเล็กให้คนหลายๆคนได้รับชม ซึ่งเนื้อหาบางอย่างนั้นอาจจะผิดแปลกไปจากความเป็นจริงและรวมถึงสภาพสังคมและวัฒนธรรมของคนไทยที่แท้จริงเป็นอย่างมากฉะนั้นแล้วหากจะมีการรับชมภาพยนตร์หรือละครที่มีการเสียดสีสังคมก็ควรที่จะมีการใช้วิจารณญาณในการรับชมโดยเฉพาะผู้ชมที่เป็นเยาวชนและเด็กยิ่งต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดอีกทั้งยังต้องคอยบอกกล่าวในสิ่งที่ละครหรือหนังได้สื่อคลุมเครือไม่ชัดเจนให้กับผู้รับชมนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วผลงานการเสียดสี

สังคม ในยุคปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจึงจะเห็นได้ว่าไม่เฉพาะแต่สื่อภาพยนตร์ทีวีเท่านั้นแต่ทว่าในปัจจุบันนี้ยังรวมไปถึงการสื่อออนไลน์ต่างๆอีกมากมายเช่นยูทูปเป็นต้น หากแต่ว่าสื่อเหล่านั้นเรียกได้ว่าเป็นสื่อที่ใช้สำหรับการเสียดสีสังคมโดยเฉพาะยิ่งในปัจจุบันสถานการณ์การเมืองและเรื่องใกล้ตัวต่างๆก็สามารถนำหยิบยกมาเป็นประเด็นต่างๆบางครั้งผู้จัดทำอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่มีความขบขันสนุกสนาน แต่ในทางกลับกันหากมองมุมกลับแล้วบางคนก็อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องจริงที่เป็นสถานการณ์ที่ไม่ควรนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะชนโดยเฉพาะการที่เยาวชนและเด็กให้รับชมกันนั่นเอง
ไม่เฉพาะแต่ภาพยนตร์ไทยเท่านั้นที่หยิบยกเอาสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันมาเป็นเครื่องเสียดสีสังคมเพื่อสื่อสารกับประชาชนแต่ทว่าภาพยนตร์ต่างประเทศไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามก็ยังมีการหยิบยกเอาเรื่องราวต่างๆภายในประเทศมาเป็นประเด็นสำคัญในการดำเนินเรื่องและมีการเสียดสีสังคมกันอย่างแพร่หลาย โดยหลายครั้งเรื่องดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นประเด็นที่ดังไปทั่วโลกเลยก็ได้เช่นกันซึ่งบางครั้งก็มีคนนำมาปฏิบัติตามกันยกใหญ่จึงทำให้เกิดเป็นกระแสความนิยมและความคลั่งไคล้โดยภาพยนตร์ที่เสียดสีสังคมในปัจจุบันนั้นมีทั้งสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ แต่ทว่าก็มีบางอย่างที่สื่อสารกันไร้สาระและไม่มีประโยชน์ซึ่งบางครั้งการล้อเลียนสังคมการเมืองและรวมถึงวัฒนธรรมของชนต่างชนชาตินั้นก็อาจจะก่อให้

เกิดปัญหาบานปลายในที่สุดอย่างเช่นเรื่องของการล้อเลียนศาสนาซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งและไม่ควรนำมาเป็นเรื่องล้อเล่นโดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้นแล้วหากจะดูภาพยนตร์หรือดูละครต่างๆก็ควรที่จะใส่ใจในการเลือกรับความบันเทิงที่มีประโยชน์และรวมถึงสามารถดูได้กันทั้งครอบครัวเพื่อที่จะสามารถนำมาเป็นสื่อกลางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวอีกทั้งยังเป็นสื่อความสัมพันธ์ในครอบครัวที่จะทำให้ทุกคนมีกิจกรรมต่างๆทำร่วมกันได้นั่นเอง ซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงจากการดูภาพยนตร์เสียดสีสังคมเปลี่ยนไปดู

ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงอารยะธรรมและการกอบกู้เอกราชของชนชาติไทยและรวมถึงจะช่วยในการแสดงเพียงความภาคภูมิใจและรวมถึงความรักและความสามัคคีของคนในอดีตที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองและกอบกู้เอกราชเพื่อคนในยุคปัจจุบันนั่นเอง